

บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน (Flexible Packaging) นั้นมีข้อดีมากมาย ที่โดนใจกลุ่มลูกค้า, กลุ่มผู้บริโภค ในตลาดโลกมากกว่า บรรจุภัณฑ์แบบแข็งตัว (Rigid Packages) ดังต่อไปนี้ มาดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้างน้า
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!- ความสะดวกในการจัดเก็บ (easier to store)
- สามารถยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร (extended shelf life)
- เปิดบรรจุภัณฑ์ง่าย ไม่ยุ่งยาก ( more convenient to open)
- ปิดบรรจุภัณฑ์ได้โดยง่าย (highly practical to close or reseal)
- บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน สามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้มากกว่า (more attractive shelf appeal)
- ลดต้นทุนในการผลิต (reduce cost of production)
- น้ำหนักเบา (weighs less)
- ประหยัดพื้นที่และค่าขนส่ง (better shipping characteristics)
- เหมาะกับยุคอีคอมเมิร์ซ (better suited for e-commerce)


ดังนั้นผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมของนานาประเทศทั่วโลก, ผู้นำประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่, ผู้นำประเทศจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งประชากรโลก ต่างพร้อมใจกันที่จะรณรงค์การลดสภาวะโลกร้อน, การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, ลดการใช้ถุงพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง, ลดการบริโภคเนื้อสัตว์เพื่อรักษาสภาวะความสมดุลด้านระบบนิเวศน์ โดยการตั้งเป้าหมายว่าต้องทำให้ได้ปีละ
เท่านั้นเท่านี้ เป็นต้นค่ะ และในวันนี้การผลิตบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนได้มีการใช้พลาสติกที่มีความไฮเทค นั่นก็คือ ต้องมีความคงทน (durable) เมื่อต้องถูกใช้งาน แต่ในขณะเดียวกันต้องสามารถย่อยสลาย(deteriorate) เมื่อถูกทิ้ง (discarded) เป็นขยะได้นั่นเองค่ะ

