วิกฤตการณ์อาหารโลก (Global food crisis) จะเกิดผลกระทบอย่างไร เมื่อ 3 ปัจจัยภายนอกอย่าง สงครามรัสเซีย-ยูเครน
วิกฤตการณ์อาหารโลก (Global food crisis) จะเกิดผลกระทบอย่างไร เมื่อ 3 ปัจจัยภายนอกอย่าง สงครามรัสเซีย-ยูเครน (the Russia-Ukraine war), โรคระบาดไวรัสโควิด-19 (Covid-19) และ สภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยน (Climate change)
โคจรมาเจอกันเข้าอย่างจัง
จากทั้ง 3 ปัจจัยภายนอกดังที่กล่าวมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเชื้อเพลิง (Fuelling) ที่พร้อมจะทำให้วิกฤตการณ์อาหารโลกยิ่งเลวร้ายไปมากกว่าเดิมอยู่หลายขุมกันเลยทีเดียวค่ะ

มาดูผลกระทบจากการเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ได้ตอกย้ำให้อาหารโลกวิกฤตไปมากกว่าเดิมนัก ก็เนื่องจากว่า การส่งออกข้าวสาลี (Wheat) และ อาหารหลักๆ ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมบริโภคกัน (other staple food) จากประเทศรัสเซีย และยูเครนต้องเกิดการหยุดชะงัก (disruption) ส่งผลโดยตรงทำให้อาหารโลกมีราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลัน
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!
และหากจะดูข้อมูลจากโครงการอาหารโลก (World Food Programme) – ฝ่ายให้ความช่วยเหลือด้านอาหารขององค์การสหประชาชาติ ( UN ) ได้ออกมาระบุด้วยว่าทั้ง รัสเซีย และยูเครน นั้นถือเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลี (Wheat) รายใหญ่ของโลก ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 30 % นอกจากนี้ ทั้งรัสเซีย และยูเครน เองก็ยังเป็นผู้ส่งออกข้าวโพด (maize) รายใหญ่ ที่ถือครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 20 % ตามลำดับนั่นเองค่ะ

ดร. มาร์ติน ฟริค (Dr. Martin Frick) – ผู้อำนวยการ โครงการอาหารโลก ได้กล่าวถึงสงครามระหว่าง รัสเซีย กับ ยูเครน ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับการส่งออกข้าวสาลี และข้าวโพดของประเทศทั้งสอง ไปยังนานาประเทศทั่วโลกมีอันต้องหยุดชะงัก แบบฉับพลันทันที แน่นอนล่ะว่า โครงการอาหารโลก (World Food Programme) ก็โดนผลกระทบจากสถานการณ์ภัยสงครามนี้ไปเต็มๆ ด้วยเช่นกันค่ะ ก็เพราะโครงการนี้จะต้องมีการจัดส่งทั้งข้าวสาลี และข้าวโพดไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ยากไร้และอดอยาก (Hunger and malnutrition) ที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่แห้งแล้ง
และทุรกันดาร อาทิเช่น คองโก (Congo), อัฟกานิสถาน (Afghanistan), เอธิโอเปีย
(Ethiopia), และ เยเมน (Yemen).

โดยหลังจากที่รัสเซียได้เปิดฉากทำสงครามกับยูเครน ก็ได้ทำให้ดัชนีราคาอาหารโลก (the Global food price index) โดยเฉพาะอาหารหลักๆ ที่ผู้บริโภคนิยมบริโภคได้มีการปรับราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้า ที่จะเกิดสงครามขึ้นนั้น ดัชนีราคาอาหารโลก ก็เริ่มส่อเค้าให้เห็นกันมาเรื่อยๆ แล้วว่า ราคาอาหารโลกกำลังอยู่ในช่วงปรับราคาสูงขึ้นมาสักพักหนึ่งแล้ว นั่นเองค่ะ

ไม่เพียงแต่สงครามระหว่างรัสเซีย กับยูเครน เท่านั้น ที่ต้องทำให้นานาประเทศทั่วโลกต่างก็ภาวนา ขอให้หาทางออกร่วมกันได้ และยุติการทำสงครามระหว่างกันโดยเร็ววัน ยังคงมีความขัดแย้งอื่นๆ ที่มีอยู่จริงทั่วโลกค่ะ ที่จัดได้ว่าเป็นอีก 1 ตัวเร่งที่ทำให้ดัชนีราคาอาหารโลกมีการปรับราคาสูงขึ้นตามปัจจัยอ่อนไหวที่มากระทบกันเลยทีเดียวค่ะ

“ส่วนสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก” ก็ได้ส่งผลกระทบโดยตรงที่ทำให้รูปแบบของสภาพภูมิอากาศโลกแบบเดิมๆ ที่เคยปรากฎอยู่ได้เกิดการผิดเพี้ยนและแปรปรวนกันไปในหลากหลายรูปแบบค่ะ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้ การเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมกันอีกด้วยค่ะ

ในขณะที่การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ไปยังนานาประเทศทั่วโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงช่องทางในการเข้าถึงอาหาร รวมทั้งส่งผลให้ราคาอาหารมีการปรับราคาสูงขึ้นนั่นเองค่ะ
แหล่งที่มา www.abc.net.au