อาหารที่ปราศจากการปรุงแต่ง หรือผ่านการปรุงแต่งให้น้อยที่สุด สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะโรคสมองเสื่อมกับคนที่คุณรักได้ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ
ก่อนอื่น คุณผู้อ่านมาทำความรู้จัก กับอาการของโรคสมองเสื่อมกันก่อนดีกว่าค่ะว่าจะมีลักษณะอย่างไรกันบ้างค่ะ ก็ด้วยโรคสมองเสื่อมนั้นเป็นสภาวะที่สมองของคนเรามีการทำงานที่แย่ลง ก็จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ที่กำลังเป็นโรคสมองเสื่อมนั่นเองค่ะ อาการหลักๆ ที่เห็นเด่นชัดก็จะมีดังนี้ค่ะ:
- หลงลืมง่าย
- คิดเงินไม่ถูก
- หาของไม่เจอ
- หลงเส้นทางในสถานที่ที่เคยคุ้นเคย
- มีพฤติกรรมที่แปลกๆ ไปจากเดิม

โรคสมองเสื่อม (Dementia) เป็นโรคที่ไม่มีใครใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น หรืออยากจะให้เกิดขึ้นกับบุคคลอันเป็นที่รักใช่มั๊ยล่ะคะ ดังนั้นเราก็จะต้องหาตัวช่วยมาเสริมทัพ ให้เป็นเกราะกำบังและเสริมภูมิคุ้มกันให้ได้อย่างแน่นหนาที่สุดกันแล้วล่ะค่ะ ก็ด้วยพลัง 3 Plus ค่ะ:
1). การรับประทานอาหารที่ปราศจากการปรุงแต่ง (Unprocessed Food) หรือผ่านการปรุงแต่งให้น้อยที่สุด จำพวก (Whole Foods) ไม่ว่าจะเป็น ผักสด, ผลไม้สด ที่ปลูกโดยไม่ผ่านการใช้ยาฆ่าแมลง, และปุ๋ยเคมี เช่นข้าวกล้องที่ไม่ขัดสี เป็นต้นค่ะ
2). การทำกิจกรรมทางกาย (Physical Activities) เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหว (movement) ของกล้ามเนื้อต่างๆ (muscles) รวมไปถึงการออกกำลังกาย (Exercise) และการทำงานบ้าน (Household Chores)
3). การทำกิจกรรมทางสังคม (Social Activities) เช่น การพบปะเพื่อนฝูง, ญาติพี่น้อง เพื่อให้เกิดการสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ ก็จะถือว่าเป็นการช่วยลดสภาวะความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมได้เป็นอย่างดี เช่นกันค่ะ

จากผลการสำรวจประชากรกว่า 500,000 คน ที่ได้เข้าร่วมโครงการของ ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติของ ประเทศอังกฤษ (UK Biobank) ได้ออกมาระบุ
ด้วยว่า การที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดนั้น จะมีการประกอบกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางกายที่ทำให้เกิดการเคลี่อนไหวของกล้ามเนื้อต่างๆ, กิจกรรมทางสังคม ซึ่งก็จะทำให้บุคคลนั้นๆ เกิดการเรียนรู้ การอยู่ร่วมกันในสังคม ที่มีการแชร์ความรู้ และประสบการณ์ผ่านเรื่องเล่า เรื่องคุยกัน ในระหว่างที่มีการนัดพบปะสังสรรค์ รับประทานอาหารร่วมกัน รวมทั้งการท่องเที่ยวด้วยกันเป็นต้นค่ะ

แน่นอนค่ะว่า การทำกิจกรรมทางกาย (Physical activities) และการทำกิจกรรมทางสังคม (Social activities) นั้นส่งผลให้บุคคลนั้นๆ มีสุขภาพจิตที่ดี (Mental) มีจิตใจที่เบิกบาน และมีรอยยิ้มแห่งความสุข สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ มีส่วนช่วยส่งเสริมให้มีความจำที่ดี รวมทั้งมีความจดจำสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นกันอีกด้วยค่ะ

นักวิจัย (Researchers) ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลการสำรวจดังกล่าว โดยระบุว่า
ประชากรที่มีการทำกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง ในรูปแบบของ
การออกกำลังกาย (Exercise) โดยประชากรกลุ่มนี้ จะสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะโรคสมองเสื่อม (Dementia) ถึง 35% ค่ะ เมื่อเทียบกับกลุ่มประชากรที่มีการออกกำลังกายน้อยเต็มที ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคสมองเสื่อมนั่นเองค่ะ

ส่วนประชากรที่ทำงานบ้าน (Household chores) เอง ผลพลอยได้จากการทำงานบ้านเองนั้นทำให้กล้ามเนื้อ ในส่วนต่างๆ ของร่างกายเกิดการเคลื่อนไหว ในทุกๆขณะที่ทำงานบ้าน กลุ่มคนเหล่านี้ก็เช่นกันค่ะ จะสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะโรคสมองเสื่อมที่ 21 % ค่ะ, ส่วนในประชากรที่ชื่นชอบการพบปะสังสรรค์กับญาติสนิท มิตรสหาย อยู่เป็นประจำ ก็จะสามารถลดสภาวะที่จะเกิดโรคสมองเสื่อมถึง 15 % ค่ะ ในทางกลับกัน กลุ่มประชากรที่ชอบเที่ยวสถานบันเทิง (Pub) และใช้ชีวิตไปกับเครื่องดื่มมึนเมา ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดสภาวะโรคสมองเสื่อม แบบเต็มสตรีมกันไปเลยค่ะ

การทำกิจกรรมทางสังคม (Social Activities) นั้นมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยกระตุ้นความจำ และ กระตุ้นความสนใจ และที่สำคัญไปกว่านั้นค่ะ คุณผู้อ่าน การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมทางสังคม จะช่วยทำให้ผู้คนเข้าถึงความรู้สึกว่า ตนเองนั้นมีคุณค่า, มีประโยชน์ สำหรับ เพื่อน, บุคคลในครอบครัว, ชุมชน และสังคม ที่ตนเองอาศัยอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นการทำให้สมองมีสุขภาพที่สมบูรณ์ (Brain Health) รวมทั้งช่วยให้ห่างไกลจากสภาวะโรคสมองเสื่อมกันอีกด้วยค่ะ

ก็เนื่องจากว่า การแสดงความคิดเห็น ขณะที่มีบทสนทนา, การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ, มีการพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต และเรื่องราวเกิดขึ้นในปัจจุบัน
ทำให้สมองเกิดการจดจำได้เป็นอย่างดี ก็จะสามารถลดสภาวะที่จะเกิดโรคสมองเสื่อมได้ หรืออย่างน้อยก็สามารถชะลอหรือยยืดระยะเวลาที่จะเกิดสภาวะโรค
สมองเสื่อมได้ นั่นเองค่ะ

ในบรรดาอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปสูง (Ultra-processed Food) นั้นก็จะมี
การใช้น้ำมัน (Fat), น้ำตาล (Sugar) หรือเกลือ (Salt) เป็นส่วนผสมให้แทรกซึมเข้าไปในอาหาร เพื่อให้ได้เป็นผลิตภัณฑ์ในหลากหลายรูปแบบ, ช่วยในการถนอมอาหาร รวมทั้งยืดอายุของอาหารให้สามารถเก็บรักษาได้ยาวนาน (Prolong shelf life) ยิ่งขึ้นค่ะ แต่การบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปสูงในปริมาณที่มากเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานาน แน่นอนค่ะว่า ส่งผลกระทบในเชิงลบ (Negative Effect) ต่อสุขภาพของสมอง (Brain Health) ทั้งในเรื่องของระบบความคิด และความทรงจำ ทำให้ตกอยู่ในสภาวะความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อม (Risk of Dementia) กันเลยทีเดียวค่ะ
มาดูตัวอย่างของอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปสูงกันดีกว่าค่ะว่า มีอะไรกันบ้างน้า:
- ไส้กรอก (Sausage)
- อาหารว่าง (Snacks)
- อาหารแช่แข็ง (Frozen Food)
- มาการีน (Margarine)
- ไอศกรีม (Ice-cream)
- คุกกี้ (Cookies)
- ลูกอม (Candy)
ในทางกลับกัน อาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปสูงนั้นก็จะห่างไกลจากโปรตีน (Protein) และไฟเบอร์ (Fiber) กันอีกด้วยค่ะ

คุณผู้อ่านคะ อาหารการกินนั้นก็มีความสำคัญทั้งต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพสมองของคนเราไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันค่ะ การลดความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะโรคสมองเสื่อมนั้นก็ทำได้ไม่ยาก อย่างที่ได้เล่ามาข้างต้นแล้ว ก็คือ ผู้คนควรหันมานิยมบริโภคอาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป (Unprocessed Foods) หรือหากจำเป็นก็
ต้องเลือกที่ผ่านการแปรรูปให้น้อยที่สุดค่ะ (Minimally Processed Foods) ก็จะมีอยู่ในอาหารที่เรียกว่า Whole Foods ก็คืออาหารที่ปราศจากการปรุงแต่ง หรือผ่านการ
ปรุงแต่งน้อยมากก่อนที่จะถูกนำมาบริโภค เป็นรูปแบบอาหารที่อยู่ในสภาพที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ก็จะอุดมไปด้วยวิตามิน (Vitamin) และสารอาหาร(Nutrients) อาทิเช่น ผักสด, ผลไม้สด, ถั่ว, เนื้อสัตว์, อาหารทะเล, สมุนไพร (Herbs), เครื่องเทศ (Spices), กระเทียม (Garlic), ไข่, ธัญพืช (Whole Grains) และนม (Milk) เป็นต้นค่ะ (สุขภาพที่ดีไม่มีซื้อขาย เราต้องสร้างเอง กำหนดเองค่ะ คุณผู้อ่านล่ะค่ะ มีความคิดเห็นเป็นประการใดกันบ้างคะ)
แหล่งที่มา edition.cnn.com